ASAP โชว์รายได้ไตรมาส 1/63 เติบโต แม้เจอวิกฤต COVID-19 ชูพอร์ตรถเช่าระยะยาวแข็งแกร่ง ลูกค้าใช้บริการต่อเนื่อง ปรับแผนลดลงทุนสอดคล้องสถานการณ์ ช่วยบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น

15 May 2020

‘ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์’ หรือ ASAP โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 เติบโตได้ต่อเนื่อง จากความแข็งแกร่งของพอร์ตรถยนต์ให้เช่าระยะยาวสร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีแรก คาดกระทบจากปัจจัยลบไม่มากนัก แม้รถยนต์เช่าสั้นที่สนามบินต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ระบุกระทบสัดส่วนรายได้ 7-8% เท่านั้น พร้อมปรับแผนลงทุนและลดต้นทุนการดำเนินงานเพื่อรับมือ COVID-19 เต็มที่

นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 (มกราคม-มีนาคม)ว่า บริษัทฯ ยังรักษาอัตราการเติบโตที่ดีได้ตามแผนงาน โดยมีรายได้จากการขายและการบริการ จำนวน 844.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 743.08 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยการเติบโตมาจากกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวภายใต้แบรนด์ asap ที่มีสัดส่วนรายได้คิดเป็นกว่า 80-90% ของรายได้ทั้งหมด โดยได้รับความไว้วางใจใช้บริการจากฐานลูกค้าเดิม ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงของรายได้ประจำและสม่ำเสมอให้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่รถยนต์ให้เช่าะยะสั้น รถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ และรถยนต์ให้เช่าคิดค่าบริการตามจริง หรือ asap GO ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนมีนาคม จึงไม่ส่งผลกระทบช่วงไตรมาสแรกมากนัก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินจากการบันทึกค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาตามมาตรฐานทางบัญชีที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนกำไรสุทธิฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP กล่าวว่า ทิศทางในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ พยายามรักษาอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแผนดำเนินงานไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ ประเมินว่ากลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวยังเป็นธุรกิจแข็งแรง โดยลูกค้าหลายรายได้ต่อสัญญาใช้บริการแล้ว ส่งผลให้รถยนต์ที่ครบสัญญาเช่าในปีนี้ ที่คาดว่าจะนำมาจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสองลดลงเหลือประมาณ 2,000 คัน จึงปรับแผนลงทุนซื้อรถยนต์ใหม่เข้าพอร์ตเพียง 2,000 คัน ให้สอดคล้องกับธุรกิจและช่วยลดต้นทุนทางการเงินได้อีกส่วนหนึ่ง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งบริหารจัดการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทุกด้าน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นที่คิดเป็น 7-8% ของรายได้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดให้บริการของสนามบิน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีการให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น และเป็นจุดจำหน่ายรถยนต์มือสองผ่านแฟรนไชส์ asap Select เพิ่มเติมจากการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ แม้ว่าปัจจุบันราคารถยนต์มือสองมีความผันผวนสูงจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะกลับมาเป็นปกติ ได้ในครึ่งปีหลังของปีนี้

 

 

 


Related News